วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

"เล่าบุญตั้งแต่เช้าของวันนี้ วันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 6 มีนาคม ให้ปลื้มใจ"



วันนี้ผมขอยกสุภาษิตบทหนึ่ง ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลา ผู้มัวคอยฤกษ์อยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง ดาวดวงจักทำอะไรได้”  ผมได้ข้อคิดว่า เราควรทำทุกวันให้ดีที่สุด คุ้มที่สุด อย่ามัวรอฤกษ์งามยามดี วันนี้ถือเป็นวันดีอีกวันหนึ่งของผม วันนี้ที่วัดพระธรรมกายมีงานจัดงานบุญต้นเดือน ชื่อว่าพิธีบูชาข้าวพระ ผมได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย โดยในช่วงเช้ามีการจัดกิจกรรมตักบาตร ณ บ้านแก้วเรือนทองของคุณยาย ได้ตักบาตรเป็นสังฆทาน เมื่อเราพอมีความรู้เกี่ยวกับหลักศาสนาบ้างเราจะรู้ถึง อานิสงส์ของบุญ ที่อยู่เบื่องหลังความสุขและความสำเร็จ  การได้เป็นผู้ให้ตั้งแต่เช้า ของหัววันเป็นความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก (ภาษาวัยรุ่น คือ ฟิน ) อานิสงส์ของการทำทาน จะทำให้เกิดมา มีทรัพย์สินไว้ประคองชีวิต จะได้ไม่จำเป็นต้องไปประกอบ มิจฉาอาชีพ หากคนทุกคนเกิดมารวยคงไม่จำเป็นจะต้องไปผิดศีล เพราะถูกคนโดยพื้นฐานจิตใจแล้วก็อยากเป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้น จึงเป็นธรรมดาที่คนเราจึงอยากรวย และถือเป็นเรื่องปกติ การทำสังฆทานโดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่ามีอานิสงส์มากกว่าถวายกับพระองค์เองเสียอีก ประกอบกับที่หลวงปู่สดวัดปากน้ำ ท่านได้บอกไว้ว่า "หวงคือไล่ ให้คือเรียก" อยากไรก็ตามในวันนี้หลังจากที่ผมได้ตักบาตรตอนเช้าแล้ว ผมมีโอกาสได้เป็นผู้อำนวยความสะดวก โดยเป็นผู้ไปขนอาหารเช้า-เพลให้แก่ผู้มาร่วมงาน กว่า 400 ชุด ผู้ให้อาหาร ได้ชื่อว่าให้ อายุ วรรณะ สุขขะ พละ ผมคิดได้ดังนี้ผมจึงรู้สึกปลื้มมากเลยครับ  หลังจากรับประทานข้าวเช้าเสร็จ ก็ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า ได้สรรเสริญคุณของพระรัตนไตร ซึ่งมีอานิสงส์อันมิอาจจะนับจะประมาณได้ ต่อจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่พิธีกรรมบูชาข้าวพระ ซึ่งต้องนั่งสมาธิตั้งแต่ 9.30-11.30 น. อยากจะบอกว่าเป็นช่วงที่รู้สึกดีมากๆ เพราะสดชื้น เต็มอิ่มและได้บุญด้วย ผมมีโอกาสได้นั่งถึงแค่ ช่วง 10.30 น. เพราะต้องไปขนข้าวก่อน ขณะนั้นยิ่งรู้สึกดีในความที่ตัวเราเองได้เสียสละ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดีอีกความรู้สึกนึงครับ หลังจากนั้นผมได้สอนน้องๆในการแยกขยะ ในเรื่องความดีสากล ช่วงบ่ายได้พาน้องมาสัมภาษณ์ โครงการธรรมทายาทหญิง ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ปลูกสัมมาทิฏฐิให้แก่น้อง หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ประชุมงานพระศาสนา จากที่ผมเล่ามาทั้งหมดนั้น ถือเป็นวันที่ทรงคุณค่าอีกวันหนึ่งเพราะตลอดวันเราไม่ได้ประมาทเลย หมั่นสั่งสมบุญกุศลให้ติดตัวเพราะเราไม่รู้ว่า พรุ่งนี้กับชาติหน้าสิ่งใดจะมาถึงก่อนกัน บรรยากกาศที่หยิบยกมาในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรมในวัดใหญ่แห่งนี้ ขนาดแค่มาร่วมกิจกรรมแค่เพียงวันเดียวยังขนาดนี้แล้วคนที่เขาอยู่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี้จะขนาดไหน ฝากเอาไว้นะครับ ผู้ใดที่มีโอกาสโอกาส อ่านบทความนี้แล้ว อยากเรียนเชิญนะครับ ครั้งนึงอยากให้ลองมาสัมผัสบรรยากาศของวัด ที่ถูกเขาว่ามาอย่างหนาหู ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงไหมครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น